เมื่อพูดถึง “กาแฟมอคค่า” หลายคนคงนึกถึงกาแฟชงผสมผงโกโก้ หอม หวาน อร่อย ในขณะที่นักดื่มกาแฟตัวยงมองว่ามันไม่ต่างอะไรกับการขับรถซุปเปอร์คาร์ประกอบมือ เพื่อให้ได้รสชาติที่แท้จริงของกาแฟมอคค่า คุณจะต้องจ่ายแพงกว่ากาแฟทั่วไปถึง 3 เท่า นั่นเพราะแหล่งที่มาและความต้องการของตลาด

เรื่องราวของกาแฟ Mocha เริ่มต้นที่เมือง Mokha ริมทะเลเรดซีราว 200 ปีก่อน ในช่วงศตวรรษที่ 15 การปลูกกาแฟในเยเมนเป็นเพียงการตอบสนองความต้องการของคนท้องถิ่น ต่อมาหลังจากกาแฟเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นทั่วคาบสมุทรอาหรับ ความต้องการเมล็ดกาแฟที่เพิ่มขึ้นนำมาซึ่งการผูกขาดทางการค้าในการขายกาแฟของประเทศเยเมน

A view of Mocha
เยเมนส่งออกกาแฟทั้งหมดจากท่าเรือโมคา เป็นสินค้าขึ้นชื่อที่ขายไปทั่วโลก นี่คือที่มาของชื่อ “กาแฟมอคค่า” – Anda Greeney นักวิจัยจาก Harvard กล่าว

จากการวิจัยพบหลักฐานทางโบราณคดีที่บ่งบอกถึงการบริโภคกาแฟเป็นเครื่องดื่มชิ้นแรกในเมือง Zabid ในประเทศเยเมน เชื่อว่าการต้มกาแฟอย่างที่รู้จักกันในปัจจุบันก็น่าจะเริ่มต้นในยุคกลางในประเทศเยเมนเช่นกัน

A farmer with a handful of freshly picked coffee cherries in Haraz. Once harvested, they are dried, aged and the beans separated from the husks by hand

ปัจจุบันอุตสาหกรรมกาแฟทั่วโลกมีมูลค่าถึง 61.4 พันล้านปอนด์ ทำให้กาแฟเป็นสินค้าซื้อขายที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกรองจากน้ำมัน อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนทางการเมืองในหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีผลต่อคุณภาพและปริมาณการผลิตเมล็ดกาแฟในเยเมน แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูชื่อเสียงของเยเมนในฐานะแหล่งกำเนิดกาแฟ ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับสมยานามว่า “ทองคำดำ” ทำให้นักดื่มกาแฟทั่วโลกได้มีโอกาสลิ้มรสชาติของกาแฟมอคค่าต้นตำหรับในทุกวันนี้

ราคากาแฟของชาวสวนพื้นเมืองอยู่ที่ประมาณ 18 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อกิโลกรัม ซึ่งขายให้กับผู้ซื้อส่วนใหญ่ในซาอุดีอาระเบีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ซึ่งสามารถทำราคาได้ถึง 300 – 500 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อกิโลกรัม ถือเป็นกาแฟที่มีราคาแพงที่สุดและดีที่สุดในโลก

“ป่าชนบทและไวน์”

ในเยเมนเกษตรกรยังคงใช้วิธีการปลูกต้นกาแฟแบบดั้งเดิมโดยไม่ใช้สารเคมี กาแฟที่นั่นจึงถูกกล่าวขานว่าเป็น “ของป่า” ที่ผ่านกระบวนการตากแห้งด้วยแสงแดด ซึ่งเป็นวิธีการที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นธรรมชาติที่สุด ทำให้น้ำกาแฟมีกลิ่นหอมหวานของผลไม้ มีความเข้มข้นสูง และมีรสเปรี้ยวเหมือนไวน์

Coffee dries on raised beds in Yemen
ถ้าคุณไม่เคยดื่มกาแฟเยเมนมาก่อนและคุณได้ดื่มเป็นครั้งแรกมันก็เหมือนกับประสบการณ์การดื่มกาแฟที่สดใสและไม่เหมือนใคร จากงานวิจัยเราพบว่า ในขณะที่เมล็ดกาแฟอาราบิก้ามีต้นกำเนิดจากประเทศเอธิโอเปีย แต่กาแฟพันธุ์เบอร์บอน (Bourbon) ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการให้รสชาติที่ล้ำลึกของช็อคโกแลตนั้นมาจากต้นกาแฟที่พบในเมืองโมคา” – กรีนีย์ นักวิจัยด้านกาแฟของเยเมนกล่าว

จาก Mokha ถึง Mocha

กาแฟมอคค่าร้อนในแก้วใส บนโต๊ะไม้

จากเมล็ดกาแฟในเยเมนไปจนถึงกาแฟมอคค่าที่เสิร์ฟในร้านกาแฟในท้องถิ่น ยังไม่มีหลักฐานใดแสดงถึงการชงกาแฟมอคค่าที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

กรีนีย์เผยว่า “จากการวิจัยอย่างละเอียด เราได้พบบันทึกเกี่ยวกับการผสมกาแฟและโกโก้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 จากสูตรการทำขนมของ Betty Crocker ในเมนู “Mocha Cake” ที่เคลือบด้วยครีมกาแฟผสมผงโกโก้ จากนั้นเราพบบันทึกที่ 2 ในปี 1920 เมื่อวอชิงตันโพสต์เผยแพร่สูตรสำหรับการทำ “มอคค่าเย็น” ซึ่งเป็นกาแฟ ใส่นม ผงโกโก้ น้ำตาลและวานิลลา ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากและมีการชงกาแฟชนิดนี้ขายทั่วอเมริกา ก่อนที่จะเป็นหนึ่งในเมนูกาแฟที่ขาดไม่ได้ แต่หากคุณต้องการที่จะได้ลองลิ้มชิมมรสของกาแฟมอคค่าต้นตำหรับ มันต้องเป็นกาแฟพื้นบ้านที่ปลูกและผลิตในประเทศเยเมนเท่านั้น!”