แม้รถขายอาหารเคลื่อนที่หรือ “ฟู้ดทรัค  (Food Truck)” จะไม่ใช่เทรนด์ใหม่ แต่ด้วยวิกฤติเศรษฐกิจที่เราต่างต้องเผชิญตั้งแต่ปีที่ผ่านมาการลดค่าใช้จ่ายเป็นทางออกแรก ๆ ที่หลายคนคิดถึง รวมถึงมาตรการต่างๆ ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการเว้นระยะห่างหรือกฎห้ามนั่งกินในร้าน และในขณะที่อาหารและเครื่องดื่มบางประเภทอาจไม่เหมาะกับการส่งเดลิเวอรี่ ส่งผลให้ธุรกิจขายอาหารแบบเคลื่อนที่เป็นทางเลือกที่ผู้อยากเริ่มต้นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มให้ความสนใจกันมากขึ้นในปีที่ผ่านมา เนื่องจากข้อได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่สามรถขับให้บริการในแหล่งชุมชนได้ ช่วงเย็นยังสามารถจอดขายตามตลาดนัดต่าง ๆ ได้ หรือออกขายตามงานอีเว้นท์ต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน และยังมีข้อได้เปรียบในเรื่องของการเสิร์ฟอาหารร้อน-เย็นในอุณภูมิที่เหมาะสมถึงมือลูกค้า ซึ่งเป็นข้อด้อยอย่างหนึ่งของการสั่งอาหารเดลิเวอรี่

ในปัจจุบันมีบริษัทผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการทางด้านนี้โดยเฉพาะ บางแห่งมีบริการแบบครบวงจร ทั้งบริการการจัดการด้านกฎหมายและติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็น บริการการตกแต่งทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งยังมีฟู้ดทรัคทั้งแบบมือหนึ่งและมือสองจำหน่ายหรือให้เช่าแบบรายวัน/รายเดือนอีกด้วย

ส่วนแบรนด์รถยนต์ที่นิยมนำมาดัดแปลงเป็นฟู้ดทรัคในประเทศไทยคือ SUZUKI Carry, KIA, TATA และ WULING


ราคาฟู้ดทรัคและค่าใช้จ่ายที่ควรคำนึงถึง

โดยทั่วไปแล้วก่อนซื้อฟุ้ดทรัคเราควรคำนึงขนาดและประเภทของธุรกิจและเงินลงทุนเป็นอย่างแรก ๆ ว่าคุณต้องการที่จะขายอะไรบ้าง ขายประจำหรือเฉพาะวันหยุด จะจอดขายตามถนนสายใหญ่หรือวิ่งขายตามหมู่บ้าน ควรเลือกขนาดให้เหมาะกับทำเลด้วย ส่วนการเลือกตัวรถควรคำนึงถึงความแข็งแรงทนทาน การประหยัดน้ำมัน โครงสร้างการทำงานไม่ซับซ้อน และง่ายต่อการดูแลรักษา

ภาพจาก Siamauto Event Car

KIA (เกีย) แบบเช่ารายวัน ราคา 6,000 – 6,500 /วัน

KIA (เกีย) แบบเช่ารายวัน ราคา 6,000 – 6,500 /วัน

SUZUKI Carry แบบเช่ารายวัน ราคา 4,000 – 4,500 /วัน

SUZUKI Carry แบบเช่ารายวัน ราคา 4,000 – 4,500 /วัน

การเลือกความสูงของรถไม่ควรต่ำกว่า 180 cm. เพื่อให้คนสามารถยืนได้และไม่สูงกว่า 210 cm. เพื่อให้สามารถรอดผ่านอุโมงค์หรือเพดานที่จอดรถได้

รถใหม่สนนราคาอยู่ที่ 3 แสนต้น ๆ ทั้งนี้ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็น อาทิเช่น

  • ค่าปูพื้น (ประมาณ 12,000 – 15,000 บาท)
  • หลังคา (ประมาณ 80,000 – 100,000 บาท)
  • เคาน์เตอร์/ตู้คีออส (ประมาณ 12,000 – 15,000 บาท)
  • ค่าระบบไฟฟ้าภายในรถ (ประมาณ 5,000 – 7,000 บาท)
  • ป้ายโฆษณา (ประมาณ 5,000 – 8,000 บาท)
  • ค่าสติกเกอร์โฆษณา (ทั่วคันประมาณ 10,000 – 12,000 บาท)
  • ค่าชุดตกแต่งภายใน (8,000 – 15,000 บาท)
  • อุปกรณ์ ต่าง ๆ ที่จำเป็น อาทิเช่น ไฟนีออน, สายปลั๊กพาวเวอร์, กล่องควบคุมไฟ และไฟราง เป็นต้น

ส่วนรถมือสองราคาอยู่ที่ประมาณ 3 – 5 แสนบาท แนน่นอนว่าขึ้นอยู่กับสภาพและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่มากับรถ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นที่ยังต้องคำนึงถึง เช่น

  • ค่าจดทะเบียนหลังคา (4,000 บาท)
  • ค่าจดทะเบียนสีรถ (3,000 บาท)
  • ค่าประกัน (เครื่องยนต์และระบบต่าง ๆ ประมาณ 20,000 บาท)

สำหรับท่านใดที่มีรถอยู่แล้วอาจเลือกซื้อรถลากขายของเคลื่อนที่ไว้ใช้งานก็ถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งเราจะมานำเสนอรายละเอียดในคราวหน้า

ชมภาพ Coffee Truck Idea จากที่ต่าง ๆ


ทำเลขายอาหาร-เครื่องดื่มแบบฟู้ดทรัคที่น่าสนใจในกทม.

ไม่พลาดเรื่องราวที่น่าสนใจ ติดตามเราที่ Facebook Fan Page TFBO

Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.