ตามความเข้าใจของใครหลายคนการดื่ม “อเมริกาโน่” คือการดื่มกาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาล สารให้ความหวาน หรือนม แล้วถ้าเราขอให้บาริสต้าทำอเมริกาโน่ใส่น้ำตาลจะผิดไหม? และมันยังใช่กาแฟอเมริกาโน่อยู่หรือเปล่า?

การแบ่งประเภทของกาแฟมักจะใช้ปริมาณน้ำและนมเป็นตัววัด

โดยมีบันทึกการใส่นมในกาแฟครั้งแรกในประเทศออสเตรีย เมื่อ Jerzy Franciszek Kulczycki เจ้าของร้านกาแฟแห่งแรกในโลกในกรุงเวียนนา ได้เพิ่มกาแฟใส่นมลงในเมนูของเขา และตั้งชื่อว่า Viennese Melange ซึ่งทันทีที่นักดื่มได้ลองลิ้มชิมรสชาติของกาแฟเมนูใหม่ต่างก็ติดใจ ทำให้ Viennese Melange กลายเป็นเมนูยอดนิยมในกรุงเวียนนา

และในเวลาไม่นาน กาแฟใส่นมก็ดังไปทั่วยุโรปในยุคนั้น จนเกิดเป็นเมนูต้นกำเนิดของกาแฟคาปูชิโน ในชื่อ Kapuziner ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือ กาแฟ ใส่ครีมและน้ำตาล ตามด้วยคาปูชิโนในชื่อต่าง ๆ ที่ต่างแยกแยะด้วยลักษณะและปริมาณของนมที่ใส่ลงไปในกาแฟ อาทิเช่น Corto ซึ่งได้จากการหยอดฟองนมเล็กน้อยบนหน้าเอสเพรสโซ่ หรือ Cappuccino Chiaro ที่ได้จากการผสมของนมมากกว่าฟองนมลงในกาแฟ และ Cappuccino Scuro ที่ได้จากการใส่ฟองนมมากกว่าการใส่นมที่ได้มาจากการสตรีมเป็นต้น

ส่วนอเมริกาโน่ก็ทำได้จากการเติมน้ำลงในกาแฟเอสเพรสโซ หรือเพิ่มปริมาณน้ำในกาแฟดริป ซึ่งจะเห็นได้ว่านมและน้ำคือตัวแปรสำคัญในการกำหนดชนิดของกาแฟ


อย่างไรก็ดี การเติมน้ำตาลลงในกาแฟหรือปริมาณน้ำตาลที่ใช้ไม่ได้เปลี่ยนประเภทของกาแฟ เพียงแค่คอกาแฟตัวยงอาจจะไม่เห็นด้วยเนื่องจากอเมริกาโน่แบบ “ดั้งเดิม” คือกาแฟดริปผสมน้ำหรือกาแฟดำที่ไม่มีสารให้ความหวาน เช่นเดียวกันกับกาแฟมอคค่าที่คอกาแฟสาย Speciality หลายคนเชื่อมั่นว่ากาแฟมอคค่าที่แท้จริงคือกาแฟจากต้นกำเนิดไม่ใช่กาแฟใส่โกโก้ ดังนั้นการใส่น้ำตาลในอเมริกาโน่นั้น เป็นเพียงรสนิยมและความชอบในเรื่องของรสชาติเท่านั้น

 

Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.

Strictly Necessary Cookies

Strictly Necessary Cookie should be enabled at all times so that we can save your preferences for cookie settings.