กาแฟกัวเตมาลา (Guatemalan Coffees)

ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ANACAFE: The National Coffee Association แห่งประเทศกัวเตมาลาได้ทำการจัดโซนแหล่งปลูกกาแฟในประเทศอย่างเป็นทางการ แบ่งเป็น 8 โซนโดยให้ชื่อว่า “สายรุ้งแห่งทางเลือก” (A Rainbow of Choices) เพื่อเป็นตัวแทนรสชาติของ “กาแฟกัวเตมาลา” (Guatemalan Coffee)

โดยประกอบด้วยโซนต่าง ๆ ดังนี้ Acatenango Valley, Antigua Coffee, Traditional Atitlan, Rainforest Coban, Fraijanes Plateau, Highland Huehue, New Oriente และ Volcanic San Marcos

โดยไร่กาแฟในทุกโซนจะปลูกแบบ “เอสเอชจี SHG” ( Strictly High Grown) ซึ่งจะถูกระบุบนฉลากพร้อมตราประทับ เพื่อระบุให้เห็นว่าเป็นกาแฟคัดพิเศษเกรดสูงสุดของประเทศแต่หากกาแฟจากโซนใดไม่ได้มาตรฐานตามที่แอนนาคาเฟ่กำนดไว้ก็จะไม่ได้รับการประทับตรา

ไร่กาแฟทั้ง 8 โซนตั้งอยู่ในหุบเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเลและรายล้อมด้วยภูเขาไฟ 3 ลูก ทำให้ต้นกาแฟดูดซับสารอาหารได้อย่างเต็มที่จากดินภูเขาไฟ กาแฟที่ได้จึงมีรสสัมผัสที่บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของแร่ธาตุและสภาพอากาศที่เหมาะสมและสมบูรณ์ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สำคัญของไร่กาแฟในกัวเตมาลา และด้วยการปลูกแบบออร์แกนิค ทั้งการเก็บเกี่ยวยังคงใช้แรงงานคน ทำให้กาแฟจาก 8 โซนดังกล่าวจึงมีโปรไฟล์ที่เป็นเอกลักษณ์เป็นที่ยอมรับว่าเป็นกาแฟที่ดีที่สุดในโลก


โปรไฟล์รวม:

ปลูกที่ระดับความสูง: 1,200 – 1,700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
พันธุ์อาราบิก้า: Bourbon, Typica, Catuai, Caturra
ฤดูเก็บเกี่ยว: ธันวาคม – เมษายน
การสี-กะเทาะเปลือก: ล้าง, ตากแดด
กลิ่น: ดอกไม้, มะนาว, ช็อกโกแลต, ถั่ว, ทอฟฟี่
รสชาติ: ช็อคโกแลต, หวาน, ถั่ว
บอดี้: บาลานซ์ถึงหนักแน่น เต็มปากเต็มคำ
ความเป็นกรด: เล็กน้อย กลมกล่อม


8 สายรุ้งแห่งทางเลือก

1. โซนหุบเขาอาคาเตนังโก (Acatenango Valley)

กาแฟในโซนนี้ปลูกภายใต้ร่มเงาไม้หนาแน่น ที่ระดับความสูง 6,500 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล การปะทุอย่างต่อเนื่องของภูเขาไฟ Fuego ทำให้ดินในแหล่งนี้อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมาย

ความโดดเด่นของโปรไฟล์: มีบอดี้ที่สมดุล ดื่มง่ายลื่นคอ มีกลิ่นหอมให้ความรู้สึกสะอาดสดชื่น

2. โซนแอนติกัว ค๊อฟฟี่ (Antigua Coffee)

กาแฟของแอนติกากระจายไปทั่วหุบเขาที่ล้อมรอบด้วยภูเขาไฟสามลูก ได้แก่ อากัว (น้ำ) อากาเตนังโก และฟูเอโก (ไฟ) ปลูกบนดินภูเขาไฟที่อุดมสมบูรณ์และเก็บความชื้นได้ดีซึ่งช่วยชดเชยปริมาณน้ำฝนที่มีค่อนข้างน้อยของเขตแอนติกา ทั้งยังมีแสงแดดจัด แอนติกัวจึงถือเป็นภูมิภาคของการปลูกกาแฟในอุดมคติ

ความโดดเด่นของโปรไฟล์: ให้ความหวานสูง มีกลิ่นหอมเข้มข้นและให้ความรู้สึกหรูหรา โดดเด่นด้วยรสชาติที่ซับซ้อนของโทนช็อคโกแลตที่คอกาแฟส่วนใหญ่ชื่นชอบ ตามด้วยเฮเซลนัทและคาราเมล และมีบอดี้ที่หนักกว่ากาแฟอเมริกากลางทั่วไป นอกจากนี้กาแฟกัวเตมาลา แอนติกัวยังมีความโดดเด่นในเรื่อง “clean cup” ที่ให้ความสะอาดในรสชาติจึงเป็นกาแฟที่ดื่มง่าย แทบไม่พบข้อบกพร่องในขั้นตอนการปลูก, เก็บเกี่ยว, การแปรรูป หรือการจัดเก็บก่อนนำไปคั่ว ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของเซกเมนต์ “กาแฟพิเศษ” (Specialty Coffee)

3. โซนเทรดดิชั่นนัล อัตติลัน (Traditional Atitlan)

ตั้งอยู่ในแนวลาดของภูเขาไฟทั้ง 3 ลูก ทางชายฝั่งของทะเลสาบ Atitlan จากพื้นที่กาแฟภูเขาไฟทั้ง 5 แห่งของกัวเตมาลา ดินในเขตอัตติลันมีแร่ธาตุมากที่สุด

พื้นที่ปลูกกาแฟ Atitlan ใกล้ภูเขาไฟสามลูกและใกล้มหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้ได้รับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยมากกว่า 50 มม.ทุกเดือนตลอดปี ช่วงเวลาในการเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนธันวาคม -มีนาคม

ความโดดเด่นของโปรไฟล์: ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติที่เข้มข้น มีความเผ็ดร้อนและความเป็นกรดของเชอร์รี่แซมมะนาว

4. โซนเรนฟอเรส โคบาน (Rainforest Coban)

ป่ากึ่งเขตร้อนชื้น Coban อยู่ทางตอนเหนือของกัวเตมาลา ที่ความสุง 4,300 – 5,600 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล มีภูมิอากาศแบบเขตร้อนซึ่งได้รับอิทธิพลจากมหาสมุทรแอตแลนติก มีลักษณะเด่นคือ มีเมฆหมอกปกคลุมตลอดเวลาและมีฝนมากกว่าโซนอื่น เรียกได้ว่าทั้งปีมีแค่สองฤดูกาล คือหน้าฝนและหน้าฝนตกชุก พื้นที่ในเขตนี้จึงมักถูกปกคลุมด้วยน้ำค้าง ทั้งยังมีอากาศเย็นตลอดปี กาแฟส่วนใหญ่ในโซนนี้จะปลูกในดินหินปูนและดินเหนียวบนเนินเขา

ความโดดเด่นของโปรไฟล์: บอดี้ปานกลาง มีรสชาติละเอียดอ่อนแต่ซับซ้อนน่าสนใจ ด้วยรสชาติผลไม้สุกที่โดดเด่น ให้ความรู้สึกสดชื่นหลังดื่ม

5. โซนไฟรฆาเนส พลาโต (Fraijanes Plateau)

ตั้งอยู่บนที่ราบบนดินภูเขาไฟที่ระดับความสูง 1,200 เมตรถึง 1,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ทางตอนเหนือของทะเลสาบ Amatitlan ถือว่าเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟที่มีดินและสภาพอากาศในอุดมคติของที่ราบสูง ซึ่งให้ผลผลิตเป็นกาแฟเกรด “Strictly Hard Bean” ระดับพรีเมี่ยมให้กาแฟที่ขึ้นชื่อในด้านความสมบูรณ์แบบ ซึ่งมีความเป็นกรดที่ชัดเจน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 22 องศาเซลเซียสตลอดปี มีฝนตกชุกตลอดปี มีปริมาณน้ำฝนประมาณ 1,500 มม./ปี และมีความชื้นแปรปรวน โดยมีความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 60% พื้นดินที่มีแร่ธาตุโพแทสเซียมในปริมาณสูงจากการสะสมของเถ้าถ่านภูเขาไฟ Volcan de Pacaya ซึ่งช่วยสร้างคุณภาพของดินที่ดีเยี่ยมซึ่งส่งผลต่อรสชาติของกาแฟในถ้วย มีคุณภาพที่ใกล้เคียงกับกาแฟกัวเตมาลาแอนติกา ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นเป็นคุณลักษณะที่โดดเด่นของโซนนี้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีภูเขาไฟที่ปะทุมากที่สุดอีกด้วย ทำให้ภูมิภาคนี้ถูกปกคลุมด้วยขี้เถ้าอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ดินมีแร่ธาตุสำคัญเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ในฤดูแล้งจะมีแสงแดดมาก แม้ว่าจะมีเมฆ หมอก และน้ำค้างปกคลุมในช่วงเช้า แต่เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นความชื้นจะหายไปอย่างรวดเร็วทำให้เมล็ดกาแฟแห้งไว

ความโดดเด่นของโปรไฟล์: มีบอดี้ที่หนักแน่นเข้มข้น แต่ให้รสชาติที่สดชื่นและมีความเป็นกรดสูง

6. โซนไฮแลนด์ เวเว (Highland Huehue)

ปลูกบนภูเขาที่สูงที่สุดในอเมริกากลาง *ที่ไม่ใช่ภูเขาไฟ* ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนของเม็กซิโก อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนรายปีเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,800 มม. และความชื้นประมาณ 75% ได้รับลมที่แห้งร้อนจากที่ราบ Tehuantepec ของเม็กซิโก ที่ช่วยปกป้องภูมิภาคจากน้ำค้างแข็ง ทำให้สามารถเพาะปลูกกาแฟ Highland Huehue ที่ระดับ 6,500 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล เป็นพื้นที่ที่ผลิตกาแฟกัวเตมาลาที่โดดเด่นที่สุด เมล็ดกาแฟจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน ความห่างไกลของเขต Huehuetenango ทำให้เกษตรกรและผู้ผลิตต้องแปรรูปกาแฟด้วยตนเอง โชคดีที่ภูมิภาคนี้มีแม่น้ำและลำธารมากมายนับไม่ถ้วน จึงสามารถวางโรงคั่วบดได้เกือบทุกที่

ความโดดเด่นของโปรไฟล์: full body ที่มีความหนา มีความเป็นกรดเข้มข้นและหอมกลิ่นไวน์ สร้างความพึงพอใจที่แสนสะอาดบนเพดานปากและยังคงอยู่หลังดื่ม

7. โซนนิว ออเรียนเต้ (New Oriente)

ออเรียนเต้ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูเขาไฟที่ดับลงแล้ว ที่ระดับความสูง 4,300 – 5,600 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล ทางตะวันออกของกัวเตมาลา ตามแนวชายแดนกับฮอนดูรัส มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 1,900 มม. ในแต่ละปีและอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 18 ถึง 25 องศาเซลเซียส กาแฟได้รับการปลูกในภูมิภาคนี้ตั้งแต่ปี 1950 ด้วยสภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกชุกและมีเมฆมาก ดินที่ทำมาจากหินภูเขาไฟแปรสภาพซึ่งมีแร่ธาตุสมดุล ส่งผลให้กาแฟคุณภาพสูง ให้รสชาติที่สมดุล มีความเป็นกรดและเต็มปากเต็มคำ กาแฟจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนธันวาคม – มีนาคม

ความโดดเด่นของโปรไฟล์: มีบอดี้ที่เต็มปากเต็มคำ ให้รสชาติที่กลมกล่อมและเข้มข้นด้วยรสช็อกโกแลต ผสานถั่วเฮเซลนัทและมีความหวานดั่งคาราเมลทอฟฟี่ และด้วยราคาไม่สูงเกินไป จึงทำให้เป็นที่สนใจของโรงคั่วทั่วโลกและร้านคาเฟ่หลายแห่งได้นำมาทำเป็นเมนู Specialty ประจำร้าน

8. โซนโวลคานิค ซาน มาร์คอส (Volcanic San Marcos)

ซานมาร์คอสเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟที่มีฝนตกชุกอบอุ่นที่สุดในกัวเตมาลา มีปริมาณน้ำฝนสูงสุดใน 8 แห่ง ฝนตามฤดูกาลจะมาเร็วกว่าในภูมิภาคอื่น ทำให้ต้นกาแฟออกดอกเร็วที่สุด ปลูกที่ระดับความสูง 4,300 – 6,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 4,500 มม. ต่อปี มีความชื้นเฉลี่ยประมาณ 75% สภาพภูมิอากาศของภูมิภาคได้รับผลกระทบจากมหาสมุทรแปซิฟิก กาแฟจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนธันวาคม – มีนาคม

ความโดดเด่นของโปรไฟล์: มีบอดี้ที่ลงตัวไม่หนาหรือเบาเกินไป ทั้งยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ละเอียดอ่อนตามด้วยกลิ่นถั่วและมีความเป็นกรดที่เด่นชัด


ห้ามพลาดกับการชมช็อบชิมกาแฟกัวเตมาลาเกรดพรีเมี่ยมคัดพิเศษโดยสถานทูตและบินตรงมาจากกัวเตมาลาในงาน

Thailand Coffee Tea and Drinks วันที่ 3 – 6 กุมภาพันธ์ 2565 ไบเทค บางนา

ชงให้คุณได้ชิมโดยแชมป์กาแฟหลายสมัย

ลงทะเบียนล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ พร้อมลุ้นรับรางวัลใหญ่

รายละเอียดเพิ่มเติม: คลิก


ที่มา:

 

Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.